สำหรับผมที่ทำงานกับลูกค้าบนตึกจามจุรีแสควร์บ่อยๆ
บรรยากาศสงบผ่อนคลาย ของ Water library
เป็นเหมือนห้องสมุดที่เก็บความทรงจำไว้มากมาย
ทำให้นึกถึงช่วงเวลาที่งานเต็มไปด้วยปัญหา
และช่วงเวลาที่งานประสบความสำเร็จ
การมาทานอาหารดีๆฝีมือเชฟ Micro Keller ที่นี่
มันเป็นอารมณ์แบบว่า
"อยากให้รางวัลกับตัวเองบ้าง"
มันเป็นอารมณ์แบบว่า
"อยากให้รางวัลกับตัวเองบ้าง"
เพราะอาหารทุกจานของ Water library เต็มไปด้วยความตั้งใจ
ตั้งแต่การออกแบบ คัดเลือกวัตถุดิบ การปรุง จนถึงการนำเสนอจริงๆ
ชั้นวางแก้วกลางร้าน สัญลักษณ์ของ Water library |
สมกับคอนเซปต์ ห้องสมุดของน้ำแร่จากทั่วโลก
โต๊ะในร้านจะเรียงเป็นวงกลมรอบบาร์ตรงกลาง |
Greeting จาก Chef |
สื่อคอนเซปต์ของ Water library
ว่าร้านอาหารเป็นพื้นที่สาธารณะที่ผู้คนมาชื่นชม
อาหารดีและไวน์ดีร่วมกัน
เมนู Signature สร้างสรรค์จากประสบการณ์
ในรา้นอาหารระดับ 2 ดาว Michelin
สั่งเลยฟินทุกจาน
อันนี้ผ้าเช็ดมือครับกินมะได้ :) |
แค่ hors d'oeuvres (ออร์เดิร์ฟ) ยังฟิน |
จานหินอ่อนด้านบนเห็นเรียบๆแบบนี้
เป็นขนมปังกับ เนย white truffle ครับ
ส่วนจานสีดำเป็น
tuna tartare pomelo ใน pumpkin soup
Main จานแรก
Chilean seabass with mushroom-bacon ragout and ponzu truffle butter
รสชาติของปลาที่ทอดสุกกำลังดี
ถูกดึงให้โดดเด่นด้วย truffle butter
และยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆจากเบค่อน
ทำให้กลายเป็นจาที่ลืมไม่ลง
Main จานที่สอง
Wagyu beef cheek with apricot, celeriac and Madeira wine reduction
จานนี้ต้องบอกว่าทำเอาผมตกหลุมรักเลย
รสชาติของวัตถุดิบทั้งหมดเข้ากันดีมาก โดยไม่มีรสไหนบดบังกัน
เข้าปากไปแล้วรู้สึกเหมือนความอร่อยมันถูกปลดปล่อยออกมาแบบในการ์ตูนญี่ปุ่่น
ของหวาน Complimentary
เป็นช๊อกโกแลต ปักมาบนน้ำตาลทรายแดง
น่ารักดีนะ
ฟินแล้วกลับไปประชุมต่อ ไว้เจอกันใหม่นะครับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น